รักไม่รู้ดับ แค้นไม่ลืม - นิยาย รักไม่รู้ดับ แค้นไม่ลืม : Dek-D.com - Writer
×

    รักไม่รู้ดับ แค้นไม่ลืม

    คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเสมอไปหรอกคุณทนาย....เพราะทุกอย่างการที่เราเป็นคนดี บางทีก็นำพาความตายมาให้เรา

    ผู้เข้าชมรวม

    51

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    51

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 ส.ค. 67 / 22:46 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา

    ทำไมในนี้มันมืดจังเลย..อึดอัดด้วยแล้วเสียงสวดมนต์มาจากไหนเนี่ย หมดเวลาของเจ้าแล้ว ห้ะ! นั่นเสียงใคร ร่างชายที่นั่งอยู่ในความมืดค่อยๆ หันมา ดวงตาแดงก่ำยังกะไฟเบรกรถยนต์หันมาพูด แกตายแล้วนอนอยู่ในโรงนี่ไง บ้าผมยังไม่ตายผมมาที่นี่ได้ยังไง ร่างชายผอมบางตาแดงได้พุ่งมาบีบคอ แกต้องมาอยู่กับข้า พูดเสร็จ2ร่างก็ยื้อยุดฉุดกระชากอยู่ในโรง จนโรงนั่นหล่นมากระแทกพื้นเสียงดังปึ้ง!!

     

    “ทอมลูก!..ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”

    แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ทอมลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงีย นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย ทำไมมันน่ากลัวจัง ทอมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกับเก็บความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ฝันไว้ในใจ จนได้มาถามแม่ตอนกินข้าว

     

    “แม่ครับเมื่อคืนผมฝันไม่ดีเลย…ทอมถามแม่ด้วยน้ำเสียงที่มีความกังวล เสียงแม่ตอบกลับมาเดี๋ยวเรื่องนี้ไปคุยตอนอยู่ในรถดีกว่านะลูก โบราณเขาว่าอย่าพูดเรื่องฝันตอนกินข้าว ทอมพยักหน้าพร้อมกับกินข้าวต้มปลาฝีมือของแม่จนหมด

     

    ป่ะเดี๋ยวไปสายเสียงสตาร์ทรถพร้อมกับถามเรื่องฝันของทอม ไหน..เล่าเรื่องฝันมาให้แม่ฟังหน่อย ทอมเล่าให้แม่ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน..

     

    “คือผมฝันว่าผมนอนอยู่ในโลงศพอะครับแม่ แล้วมีเสียงสวดมนต์ ทีนี้มันมีผู้ชายตัวดำๆ ผอมๆ ในตานี่มีสีแดงจ้าเลยแม่ เขาหั่นมาบอกผมว่าหมดเวลาของแกแล้ว อยู่ๆ แกก็พุ่งมาบีบคอผมบอกว่าแกต้องไปอยู่กับข้า ผมไม่ยอมผมเลยดึ้นสุดแรงเลยพอสักพักก็ได้ยินเสียงปึ้ง ผมคาดว่าน่าจะโลงตก แล้วผมก็ขยับตัวไม่ได้เลย แต่เดชะบุญที่แม่มาปลุกผมให้ไปโรงเรียนตอนเช้า ผมเลยรู้สึกตัวตื่นตอนนั้นครับ ขอบคุณแม่มากๆ นะครับ”

     

    เสียงแม่พูดปลอบอย่างอ่อนโยน

     

    “โอ๋..ไม่เป็นไรนะลูก มันแค่ฝัน รู้สึกว่าฝันแบบนี้ดีด้วยนะอาจจะได้ลาภลอยแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแหละ

    เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ว่างเราไปทำบุญที่วัดกันดีไหม

     

    ไปครับๆ ช่วงนี้ใกล้สอบปลายภาคแล้วจะจบม.6แล้วขอให้ได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ด้วยเถอะ

     

    ทอมหันไปตอบแม่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ ดูเหมือนว่าเรื่องฝันจะคลายลงไปบ้างแล้ว ระหว่างขับรถไปก็มีรถคันนึงกำลังจะออกมาจากซอย3แยกแม่ของทอมเบรคไว้ไม่ทัน จนทำให้รถของแม่ทอมชนกับรถที่จะเลี้ยวออกมา แต่โชคยังดี ที่แม่ลูกไม่เป็นอะไรมาก ต่อมาก็ได้มีชายร่างกำยำเดินออกมาจากรถคันนั้น พร้อมกับตะโกนถาม

     

    นี่!คุณ..ขับรถยังไงวะ ไม่เห็นเหรอว่าข้างหน้ามีรถหัดมีน้ำใจกันหน่อยซิ..รถคันเท่าช้างมองไม่เห็นรึไงห้ะ!

     

    แม่ค่อยๆ ลดกระจกข้างลงแล้วพูดกับชายร่างบึกคนนั้น

    “เอ่อ..ต้องขอโทษพี่ด้วยนะคะ..พอดีฉันมาทางตรงอะค่ะเอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะโทรเรียกตำรวจและประกันมาเคียร์ให้แล้วกันนะ

     

    หื้มมไม่ต้องหรอก ชายร่างกำยำส่ายหน้าพร้อมกับมีสีหน้าที่เล่ย์เหลี่ยม ไม่ต้องจงต้องแจ้งหรอก..ห้าร้อย

    ต่างคนต่างซ่อมจบ โอเค๊ ชายบึ้มคนนั้นยื่นข้อเสนอมา แม่ทอมได้แต่นั่งตกใจกับเหตุการณ์ใจเต้นดังตื้บ..ตื้บๆ เสียงลูกชายก็ได้แทรกขึ้นมา

     

    “ไม่ได้หรอกครับ รถแม่ผมก็ได้รับความเสียหายไม่น้อย อยู่ๆ จะมาให้รับเงินห้าร้อยได้ยังไง ทั้งๆ ที่แม่ผมไม่ผิด ตอนไปสอบใบขับขี่เขาก็บอกอยู่ รถที่ออกมาจากซอยควรหยุดแล้วให้รถทางตรงไปก่อนไม่ใช่เหรอ”

     

    แม่ทอมก็ได้โทรทัศน์ไปทางตำรวจก็ได้รับเรื่องแล้วเดินทางมา แม่ควักแบงค์ยี่สิบออกมา บอกทอมว่าให้นั่งรอรถ2แถวไปก่อนนะส่วนแม่จะขออยู่เคียร์ตรงนี้ก่อน ไม่ต้องห่วงแม่นะ เดี๋ยวถ้าแม่เสร็จตรงนี้แม่จะนั่งรถ2แถวไปทำงานเหมือนกัน นั่นไง!รถมาพอดี

     

    ทอมก็ได้ยกมือหวัดดีแม่ แล้วเดินขึ้นรถ2แถวไป

     

    “เช้านี้ก็เจอแต่อะไรไม่รู้..คนสมัยนี้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจนคนอื่นได้รับความเสียหายกันไปหมด เราคงจะค้นพบตัวตนแล้วแหละว่าจะเรียนอะไรต่อดี”

     

    ทอมนั่งรถ2แถวมาได้สักพักรถก็จอดหน้าโรงเรียน เสียงจากวงดุริยางค์ที่บรรเลงเพลงชาติกันดังสนั่น ซึ่งเป็นสัญญาณบอกเวลาว่า8โมงแล้ว

     

    “โธ่..เวรกรรม มาสายจนได้ ปล่อยให้รุ่นน้องเป่าทรัมเป็ตคนเดียวเลย”

     

    ทอมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู พร้อมกับบ่นกับตัวเอง

    ต่อจากนั้นก็มีเสียงตวาดแว้ด แล่นดังเข้ามาในรูหู

    นี่!!นายพิพัฒน์!! มานี่เลยมาโรงเรียนสายคิดจะคลาดสายตาฉันไปได้เหรอ แล้วทำไมวันนี้ถึงสายหล่ะปกติต้องเห็นไปยืนเป่าแตรทุกเช้าไม่ใช่เหรอ ครูสมศรีถามขึ้นด้วยความสงสัย พิพัฒน์เลยตอบครูสมศรีไป

     

    “คือตอนแม่ผมขับรถมา มันมีรถออกมาจากซอยเลยทำให้ชนกันครับ”

     

    อุ้ยตายละ! แล้วแม่เธอเป็นอะไรไหมอะนั่น!

     

    พิพัฒน์ตอบ ไม่เป็นอะไรครับตอนนี้แกน่าจะไปเคียร์กันที่โรงพักแล้วครับ เพราะดูอีกคันเหมือนจะไม่ยอม เลยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเขาดีกว่า

     

    ครูสมศรีพยักหน้าเล็กน้อยและแสดงสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย โอเค..วันนี้ครูจะไม่ทำโทษเธอละกัน ไปเข้าเรียนได้แล้ว..ครูสมศรีพูดจบ พิพัฒน์ก็ยกมือไหว้แล้วเดินเข้ามาในโรงเรียน โดยมีนลินรัตน์เดินมาด้วย

     

    ทอมมี่…หู้วว ทางนี้!!

     

    ทอมหันไปตอบอ้าวนลิน.. มาสายจังนะวันนี้ อุตสาทำขนมของโปรดมาให้กิน นลินรัตน์ตอบด้วยสายตาที่หวานฉ่ำ นลินรัตน์เป็นเพื่อนร่วมห้องของทอม รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมเป็นคนน่ารักคนนึงเลยแถมฝีมือการทำขนมก็ไม่แพ้มืออาชีพเลย

     

    “โห๋นลิน น่ากินอะ ขอคำดิ”

     

    ไม่ทันแล้วจะเข้าสอบแล้ว เอาไว้เดี๋ยวพักกลางวันค่อยกิน อยากมาสายเองช่วยไม่ได้!

     

    นลินรัตน์ตอบเสร็จแล้วเดินนำหน้าพิพัฒน์ไป..   กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา

    ทำไมในนี้มันมืดจังเลย..อึดอัดด้วยแล้วเสียงสวดมนต์มาจากไหนเนี่ย หมดเวลาของเจ้าแล้ว ห้ะ! นั่นเสียงใคร ร่างชายที่นั่งอยู่ในความมืดค่อยๆหันมา ดวงตาแดงก่ำยังกะไฟเบรกรถยนต์หันมาพูด แกตายแล้วนอนอยู่ในโรงนี่ไง บ้าผมยังไม่ตายผมมาที่นี่ได้ยังไง ร่างชายผอมบางตาแดงได้พุ่งมาบีบคอ แกต้องมาอยู่กับข้า พูดเสร็จ2ร่างก็ยื้อยุดฉุดกระชากอยู่ในโรง จนโรงนั่นหล่นมากระแทกพื้นเสียงดังปึ้ง!!


     

       “ทอมลูก!..ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”

    แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง  ทอมลุกขึ้นมาด้วยความงัวเงีย นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย ทำไมมันน่ากลัวจัง ทอมลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวในชุดนักเรียนมัธยมปลาย พร้อมกับเก็บความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ฝันไว้ในใจ จนได้มาถามแม่ตอนกินข้าว


     

       “แม่ครับเมื่อคืนผมฝันไม่ดีเลย…ทอมถามแม่ด้วยน้ำเสียงที่มีความกังวล เสียงแม่ตอบกลับมาเดี๋ยวเรื่องนี้ไปคุยตอนอยู่ในรถดีกว่านะลูก โบราณเขาว่าอย่าพูดเรื่องฝันตอนกินข้าว ทอมพยักหน้าพร้อมกับกินข้าวต้มปลาฝีมือของแม่จนหมด


     

        ป่ะเดี๋ยวไปสายเสียงสตาร์ทรถพร้อมกับถามเรื่องฝันของทอม ไหน..เล่าเรื่องฝันมาให้แม่ฟังหน่อย ทอมเล่าให้แม่ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน..


     

        “คือผมฝันว่าผมนอนอยู่ในโลงศพอะครับแม่ แล้วมีเสียงสวดมนต์ ทีนี้มันมีผู้ชายตัวดำๆผอมๆในตานี่มีสีแดงจ้าเลยแม่ เขาหั่นมาบอกผมว่าหมดเวลาของแกแล้ว อยู่ๆแกก็พุ่งมาบีบคอผมบอกว่าแกต้องไปอยู่กับข้า ผมไม่ยอมผมเลยดึ้นสุดแรงเลยพอสักพักก็ได้ยินเสียงปึ้ง ผมคาดว่าน่าจะโลงตก แล้วผมก็ขยับตัวไม่ได้เลย แต่เดชะบุญที่แม่มาปลุกผมให้ไปโรงเรียนตอนเช้า ผมเลยรู้สึกตัวตื่นตอนนั้นครับ ขอบคุณแม่มากๆนะครับ”


     

    เสียงแม่พูดปลอบอย่างอ่อนโยน 


     

         “โอ๋..ไม่เป็นไรนะลูก มันแค่ฝัน รู้สึกว่าฝันแบบนี้ดีด้วยนะอาจจะได้ลาภลอยแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแหละ

    เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ว่างเราไปทำบุญที่วัดกันดีไหม


     

    ไปครับๆ ช่วงนี้ใกล้สอบปลายภาคแล้วจะจบม.6แล้วขอให้ได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆด้วยเถอะ 


     

    ทอมหันไปตอบแม่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ ดูเหมือนว่าเรื่องฝันจะคลายลงไปบ้างแล้ว ระหว่างขับรถไปก็มีรถคันนึงกำลังจะออกมาจากซอย3แยกแม่ของทอมเบรคไว้ไม่ทัน จนทำให้รถของแม่ทอมชนกับรถที่จะเลี้ยวออกมา แต่โชคยังดี ที่แม่ลูกไม่เป็นอะไรมาก ต่อมาก็ได้มีชายร่างกำยำเดินออกมาจากรถคันนั้น พร้อมกับตะโกนถาม 


     

     นี่!คุณ..ขับรถยังไงวะ ไม่เห็นเหรอว่าข้างหน้ามีรถหัดมีน้ำใจกันหน่อยซิ..รถคันเท่าช้างมองไม่เห็นรึไงห้ะ!


     

    แม่ค่อยๆลดกระจกข้างลงแล้วพูดกับชายร่างบึกคนนั้น

         “เอ่อ..ต้องขอโทษพี่ด้วยนะคะ..พอดีฉันมาทางตรงอะค่ะเอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะโทรเรียกตำรวจและประกันมาเคียร์ให้แล้วกันนะ


     

    หื้มมไม่ต้องหรอก ชายร่างกำยำส่ายหน้าพร้อมกับมีสีหน้าที่เล่ย์เหลี่ยม ไม่ต้องจงต้องแจ้งหรอก..ห้าร้อย

    ต่างคนต่างซ่อมจบ โอเค๊ ชายบึ้มคนนั้นยื่นข้อเสนอมา แม่ทอมได้แต่นั่งตกใจกับเหตุการณ์ใจเต้นดังตื้บ..ตื้บๆ เสียงลูกชายก็ได้แทรกขึ้นมา


     

        “ไม่ได้หรอกครับ รถแม่ผมก็ได้รับความเสียหายไม่น้อย อยู่ๆจะมาให้รับเงินห้าร้อยได้ยังไง ทั้งๆที่แม่ผมไม่ผิด ตอนไปสอบใบขับขี่เขาก็บอกอยู่ รถที่ออกมาจากซอยควรหยุดแล้วให้รถทางตรงไปก่อนไม่ใช่เหรอ”


     

    แม่ทอมก็ได้โทรทัศน์ไปทางตำรวจก็ได้รับเรื่องแล้วเดินทางมา แม่ควักแบงค์ยี่สิบออกมา บอกทอมว่าให้นั่งรอรถ2แถวไปก่อนนะส่วนแม่จะขออยู่เคียร์ตรงนี้ก่อน ไม่ต้องห่วงแม่นะ เดี๋ยวถ้าแม่เสร็จตรงนี้แม่จะนั่งรถ2แถวไปทำงานเหมือนกัน นั่นไง!รถมาพอดี


     

    ทอมก็ได้ยกมือหวัดดีแม่ แล้วเดินขึ้นรถ2แถวไป


     

          “เช้านี้ก็เจอแต่อะไรไม่รู้..คนสมัยนี้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจนคนอื่นได้รับความเสียหายกันไปหมด เราคงจะค้นพบตัวตนแล้วแหละว่าจะเรียนอะไรต่อดี”


     

    ทอมนั่งรถ2แถวมาได้สักพักรถก็จอดหน้าโรงเรียน เสียงจากวงดุริยางค์ที่บรรเลงเพลงชาติกันดังสนั่น ซึ่งเป็นสัญญาณบอกเวลาว่า8โมงแล้ว 


     

         “โธ่..เวรกรรม มาสายจนได้ ปล่อยให้รุ่นน้องเป่าทรัมเป็ตคนเดียวเลย”


     

    ทอมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู พร้อมกับบ่นกับตัวเอง

    ต่อจากนั้นก็มีเสียงตวาดแว้ด แล่นดังเข้ามาในรูหู

    นี่!!นายพิพัฒน์!! มานี่เลยมาโรงเรียนสายคิดจะคลาดสายตาฉันไปได้เหรอ แล้วทำไมวันนี้ถึงสายหล่ะปกติต้องเห็นไปยืนเป่าแตรทุกเช้าไม่ใช่เหรอ ครูสมศรีถามขึ้นด้วยความสงสัย พิพัฒน์เลยตอบครูสมศรีไป


     

       “คือตอนแม่ผมขับรถมา มันมีรถออกมาจากซอยเลยทำให้ชนกันครับ”


     

    อุ้ยตายละ! แล้วแม่เธอเป็นอะไรไหมอะนั่น!


     

    พิพัฒน์ตอบ ไม่เป็นอะไรครับตอนนี้แกน่าจะไปเคียร์กันที่โรงพักแล้วครับ เพราะดูอีกคันเหมือนจะไม่ยอม เลยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเขาดีกว่า


     

    ครูสมศรีพยักหน้าเล็กน้อยและแสดงสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย โอเค..วันนี้ครูจะไม่ทำโทษเธอละกัน ไปเข้าเรียนได้แล้ว..ครูสมศรีพูดจบ พิพัฒน์ก็ยกมือไหว้แล้วเดินเข้ามาในโรงเรียน โดยมีนลินรัตน์เดินมาด้วย


     

    ทอมมี่…หู้วว ทางนี้!!


     

    ทอมหันไปตอบอ้าวนลิน.. มาสายจังนะวันนี้ อุตสาทำขนมของโปรดมาให้กิน นลินรัตน์ตอบด้วยสายตาที่หวานฉ่ำ นลินรัตน์เป็นเพื่อนร่วมห้องของทอม รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมเป็นคนน่ารักคนนึงเลยแถมฝีมือการทำขนมก็ไม่แพ้มืออาชีพเลย


     

         “โห๋นลิน น่ากินอะ ขอคำดิ”


     

    ไม่ทันแล้วจะเข้าสอบแล้ว เอาไว้เดี๋ยวพักกลางวันค่อยกิน อยากมาสายเองช่วยไม่ได้!


     

    นลินรัตน์ตอบเสร็จแล้วเดินนำหน้าพิพัฒน์ไป..


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น